วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

อนุทินที่ 5

วิเคราะห์ข่าวเกี่ยวกับพระ

เปิดใจ เจ้าอาวาสดัง-แกนนำยกรถทหาร

ถ้าไม่ยอม จะลุกฮือเต็มพุทธมณฑล

                เป็นภาพเหตุการณ์ชวนตกใจ หลังเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างทหารพล.ร.9 ที่มาปิดกั้นทางเข้าพุทธมณฑล เพื่อไม่ให้รถยนต์ รถบัสของพระสงฆ์ และประชาชนที่จะมาร่วมสัมมนา "สกัดแผนล้มการปกครองคณะสงฆ์ไทย" ทำให้คณะพระสงฆ์ที่เข้าไม่ได้เกิดการปะทะกันและมีการรื้อลวดหนามออกเปิดทางให้รถยนต์ได้เข้าส่วนหนึ่ง จากนั้นทหารได้ปรับแผนด้วยการใช้รถยนต์คัมวี่ มาปิดกั้นไม่ให้รถบัสขนาดใหญ่เข้า ทำให้เกิดการปะทะกันอีกรอบ
        พระประสงค์ ปัญญาวุฒโธ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาพลุคำ ต.วังคัน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เข้าต่อรองให้ทหารนำรถยนต์คัมวี่ ที่จอดขวางทางเข้าออก แต่ทางทหารไม่ยอมดำเนินการตามเจรจา พระประสงค์ จึงประกาศให้พระช่วยกันยกรถยนต์คัมวี่ของทหารหลบออกนอกเส้นทาง เจ้าหน้าที่ทหารก็ได้เข้ามาเจรจาว่าคนขับรถคันดังกล่าวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะถูกทำร้ายร่างกายขณะชุลมุน ขณะเดียวกันได้มีพระสงฆ์ที่นำคณะมาจากรถบัสได้ยอมเดินลงจาดรถบัสและเดินเท้าจากถนนพุทธมณฑล เข้ายังลานหน้าพระพุทธมณฑล
        เจ้าอาวาส สำนักสงฆ์เขาพลุคำ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้คณะพระสงฆ์มาทำกิจกรรมของสงฆ์ ซึ่งพระไม่ได้มาเพื่อมีปัญหา แต่ทหารกลับมาปิดกั้นไม่ให้รถของเครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 เข้าไป ทำให้รถก็ติดเต็มไปหมด ตามหลักแล้วทหารต้องมาอำนวยความสะดวกไม่ใช่มาปิดกั้นไม่ให้รถเข้า ปัญหามันก็เลยเกิด เมื่อทหารมากั้น อาตมาก็เลยนิมนต์พระมาช่วยยกรถหลบๆ ไปเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกแค่นั้นเอง
          สำนักพุทธฯ เป็นเขตของสงฆ์ ทหารไม่ควรที่จะมายุ่งเกี่ยว น่าจะปล่อยให้สงฆ์ทำงานไป เพราะคณะสงฆ์ไม่เคยแสดงบทบาทอะไร สงบนิ่งมาตลอด แต่ในวันนี้จะขอมารวมตัวกันเพื่อแสดงพลังเพื่อจะมาบอกอะไรสักอย่างให้ทางส่วนราชการ หรือเบื้องบน แม้แต่หัวหน้ารัฐบาลได้รับทราบว่า คณะสงฆ์ที่มารวมตัวกันนี้เพื่อต้องการเรียกร้องอะไร ที่ผ่านมาร้องอะไรไปก็เงียบ อย่างที่ได้ยื่นเสนอไปให้ตั้งพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ โดยเสนอไป 1 ล้านชื่อก็เงียบ ในครั้งนี้เรามารวมพลังกัน ถ้าไม่ยอมพระสงฆ์ก็จะลุกฮือกันเต็มพุทธมณฑล
        
         http://news.sanook.com/1950062/ 16 ก.พ. 60 ( 07:36 น.)


➨วิเคราะห์ข่าว

        จากการที่ดิฉันได้อ่านข่าวนี้ รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ซึ่งข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองไทยระหว่างผู้ที่รักษาศาสนากับทหาร ในการปะทะกันครั้งนี้ได้เกิดขึ้นระหว่างทหารและประชาชน โดยทหารพล.ร.ที่มาปิดกั้นทางเข้าพุทธมณฑล เพื่อไม่ให้รถยนต์ รถบัสของพระสงฆ์ และประชาชนที่จะมาร่วมสัมมนา "สกัดแผนล้มการปกครองคณะสงฆ์ไทย"  ทำให้คณะพระสงฆ์ที่เข้าไม่ได้เกิดการปะทะกันและมีการรื้อลวดหนามออกเปิดทางให้รถยนต์ได้เข้าส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นทหารได้ใช้รถยนต์คัมวี่ มาปิดกั้นไม่ให้รถบัสขนาดใหญ่เข้า ทำให้เกิดการปะทะกันอีกรอบ โดยเจ้าอาวาสได้เข้าต่อรองให้ทหารนำรถยนต์คัมวี่ ที่จอดขวางทางเข้าออก แต่ทางทหารไม่ยอมดำเนินการตามเจรจา พระประสงค์ จึงประกาศให้พระช่วยกันยกรถยนต์คัมวี่ของทหารออกนอกเส้นทาง เป็นการปะทะกันอย่างรุนแรงมาก ซึ่งการใช้อาวุธและการปะทะอารมณ์กันอย่างหนัก เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเล็กๆที่ทุกคนหรือทั้งสองฝ่ายสามารถคุยกันและประนีประนอมสถานการณ์นั้นได้ ความรุนแรงครั้งนี้ทำให้เกิดผู้บาดเจ็บ เนื่องจากมีการใช้ของมีคมลวดหนามในการต่อสู้ครั้งนี้ ความร้ายแรงที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อ ผู้คนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรใช้เหตุผลในการพูดและแก้ไขปัญหามากกว่าการใช้อารมณ์ และเชื่อว่าหากทุกคนเข้าหันหน้าคุยกันทุกอย่างก็จะสามารถลงเอยด้วยดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น